Wrong Turn 4 (2011)

Wrong Turn 4 (2011)

หลังจากสร้างเสียงก่นด่าหนาหูไปในหนังภาคที่แล้วอย่าง Wrong Turn 3: Left for Dead ผู้กำกับ Declan O'Brien ได้กลับมารับหน้าที่เดิมในหนังภาคต่ออันทรงคุณค่าเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะทำได้ดีกว่าเดิม (นิดนึง) ด้วย EFX ที่ดูดีขึ้น และเรื่องราวที่ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของกลุ่มอมนุษย์กินคน (มุขอมตะของหนังภาคต่อ) หนังภาคนี้มีโลเคชั่นเป็นโรงพยาบาลร้าง ท่ามกลางพายุหิมะ (คุ้นๆ กันยัง?) กับตัวละครกลุ่มใหญ่ที่เต็มไปด้วยคนที่ไม่ค่อยจะฉลาดนัก ดูไปดูมาแล้วกลับรู้สึกว่าคนที่รู้จักรอจังหวะ มีการวางแผน ทำการใดแบบมีขั้นมีตอน กลับเป็นพวกแก๊งค์หน้าเน่านักล่าของเราซะมากกว่า แล้วที่ขัดใจมากมายแบบรับไม่ได้คือหน้าตานักแสดง เน้นปริมาณ หาได้มีคุณภาพไม่ ทำให้หมดอารมณ์จะเอาใจช่วย เซ็งจิ๊บ !!

โฉมหน้าสามพี่น้องสุดหล่อ แอร๊ยยยย!!

มาว่ากันถึงความโหดบ้าง เชื่อเหลือเกินว่าคนที่ยังตามดูหนังชุดนี้อยู่ก็หวังแค่ให้มีฉาก gore ให้ได้ดูบ้าง (รวมทั้งเราด้วย) หนังเปิดเรื่องด้วยความโกลาหลหลังจาก สามพี่น้องสุดสยองที่เป็น No.1 ของโรงพยาบาลหลุดจากห้องขัง ไล่ทำร้ายและทรมานหมอและพยาบาลอย่างรื่นรมย์ (โคตรฉลาดอ่ะ ใช้เครื่องมือแพทย์เป็นด้วย อิชั้นยังไม่รู้จักวิธีใช้เลย) และปิดท้ายการเปิดเรื่องด้วยกองเลือดและชิ้นส่วนต่างๆ ของผู้อำนวยการ รพ. (แต่ทำยังไง ไปดูกันเอง) จากนั้นน่าเบื่อนิดหน่อยช่วงทำความรู้จักกลุ่มคนอายุสั้นที่กรรมลิขิตให้ต้องไปติดอยู่ใน รพ. นั้น (ในหลายปีต่อมา)

 ที่เกิดเหตุ... สวยงาม น่าไปเที่ยว

 เปลืองเฮลล์บลูบอยมากมาย

จากนั้นจึงกลับมาช่วงไล่ล่าหาเหยื่อที่รอคอย ซึ่งขอบอกตามตรงว่า ส่วนตัวแล้วค่อนข้างผิดหวังอย่างมากทั้งๆ ที่ไม่ได้หวังอะไร คำถามคือ..นี่โหดแล้วหรือ? เราคิดว่าหนังพยายามจัดฉากบุฟเฟ่ต์จิ้มจุ่มเนื้อคนสดๆ ให้เป็นไฮไลต์ความโหดของหนังเรื่องนี้ แต่ดูแล้วเพลียจริงอะไรจริง นั่นเนื้อคนหรือซิลิโคนย่ะ!! ขอยืมมาเสริมอึ๋มหน่อยเถิดพ่อคุณ ถึงจะมีเลือดเยอะจริง มีสับ มีแล่ มีเฉือน มีทะลวง มีแย่งเครื่องในกินกันด้วย สามพี่น้อง (แอบฮา) แต่ก็งั้นๆ หนังมันไม่ค่อยตื่นเต้น ตอนจบก็รู้กันอยู่แล้วว่าจะเป็นไง …. (เพราะคำว่า begin มันกำหนดบทให้คนดูไม่ต้องลุ้นอยู่กลายๆ) เอาเป็นว่าตัดใจให้คะแนนแบบขาดตัวเลยที่ 4.5/10 ก็แล้วกันค่ะ ท่านผู้ชม ^^

Tears for Sale (2008)

Tears for Sale (2008)

ภาพยนตร์คอมเมดี้ แฟนตาซีจากเซอร์เบียเรื่องนี้ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้องสองสาวที่มีอาชีพรับจ้างร้องไห้ในงานศพ ในยุคที่ผู้ชายถูกเกณฑ์ไปรบและตายในสงครามกันบานเบือ จนผู้ชายแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว วันหนึ่งสองสาวนี้ก็ดันไปทำให้ตาแก่หงำเหงือกที่เป็นผู้ชายคนสุดท้ายในหมู่บ้านต้องลาโลกไป เพื่อชดเชยความผิดอันใหญ่หลวงนี้ นางทั้งสองต้องออกจากหมู่บ้านไปเสาะหาผู้ชายกลับมาเป็นสมบัติแก่หมู่บ้านตามเดิมให้จงได้

จะบังเอิญหรือโชคดีก็ไม่รู้ที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลยแต่หยิบมาดูเพราะเห็นว่าเป็นหนังเซอร์เบียนแถมมาแบบแฟนตาซีอีกต่างหาก และหนังก็ทำออกมาได้ประทับใจสุดๆ ทั้งภาพ (สวยมาก) ดนตรีประกอบ และมุขฮาร้ายๆ แบบแอบยิ้มมุมปาก ^^ การผจญภัยต่างๆ นานาของสองพี่น้อง ไหนจะต้องปากกัดตีนถีบเพื่อแย่งชิงผู้ชายจากหมู่สาวๆ นับร้อยพัน (นึกภาพคนต่อคิวแย่งซื้อไอโฟนแล้วฟัดกันนัวเนีย) คำสาปจากแม่มด ความรู้สึกของจูบแรก การเต้นรำท่ามกลางดงระเบิด (ฉากนี้ประทับใจมาก) และสุดท้ายพวกเธอก็ได้พบว่าจริงๆ แล้วหยดน้ำตาของคนเรานั้น แท้จริงแล้วมันไม่ได้มีไว้เพื่อขาย

Attack the Block (2011)

Attack the Block (2011)

หนังเด็กเกรียนปะทะเอเลี่ยนจากอังกฤษเรื่องนี้ ตอนแรกเหมือนจะไม่ค่อยน่าสนใจ แต่ปรากฏว่าหนังดูสนุกอย่างคาดไม่ถึง เมื่อกลุ่มเด็กเกเรละแวก South London บังเอิญไปยำตรีนเอเลี่ยนตัวนึงที่ตกมากจากฟ้าตาย (น่าจะเรียกสัตว์ต่างดาวมากกว่านะ รูปร่างคล้ายๆ หมาป่า +ลิง) บังเอิญอีกทีที่ไอ้ตัวที่ตายนั้นดันเป็นตัวเมียที่ปล่อยฟีโรโมนออกมาจากเลือดได้อีก ฝูงสัตว์เอเลี่ยนหนุ่มๆ ทั้งหลายเลยแห่ตามมากันเป็นโขยง งานนี้เด็กเกรียนแห่ง South London จะต้องปกป้องโลก (หรือตัวเอง!!) ให้พ้นจากหายนะอันยิ่งใหญ่นี้ให้จงได้

พูดซะเว่อร์ จริงเป็นหนังทุนไม่ค่อยเยอะ ที่ทำออกมาได้ป่วนดี หนังมีส่วนของ Horror บ้าง (อย่าคิดว่าเด็กในหนังต้องรอดทุกเรื่องไป) แต่แทรกอารมณ์ขันชวนยิ้มมาได้ตลอด แถม Nick Frost ดาราขาประจำหนังฮาวายป่วงทั้งหลายมาเป็นบทสมทบในเรื่องนี้ 55+ ... สมทบจริงๆ ออกมาไม่กี่ฉากเอง เด็กๆ ในหนังก็วิ่งกันเกือบทั้งเรื่อง อาวุธที่ใช้ต่อกรกับเอเลี่ยนก็เป็นพวกมีด ดาบ ไม้เบสบอล พลุ ปะทัด และที่สูบลมยาง!! แหม..ถ้าพวกเอเลี่ยนมาตกลงแถวกรุงเทพแล้วเจอเด็กช่างกลอาวุธครบมือของบ้านเราเข้าไป สงสัยคงเผ่นกลับดาวกันแทบไม่ทัน ^^

ดูแก้เบื่อได้จ้า หนุกดี ^^